บาสเกตบอล NBA สั่งปรับเงิน เทร ยัง ฐานสัมผัสตัวท่านเปา
บาสเกตบอล NBA ได้ออกมาประกาศบทลงโทษ “เทร ยัง” (Trae Young) การ์ดออล-สตาร์ ของทีม แอตแลนตา ฮอว์กส ด้วยการปรับเงินจำนวน 15,000 เหรียญสหรัฐฯ หลังผู้เล่นวัย 23 ปี ละเมิดข้อห้ามของ NBA ด้วยการ “แตะตัวผู้ตัดสิน” ในเกมที่ ฮอว์กส์ แพ้ วอชิงตัน วิเซิร์ดส์ 111 – 112 คะแนน เมื่อคืนวันพฤหัสที่ 28 ตุลาคม ที่ผ่านมา หลังไม่พอใจที่กรรมการไม่ยอมเป่าฟาวล์ให้แก่เขา จนกลายเป็นประเด็นที่ทาง NBA ใช้ในการพิจารณาโทษการ์ดจอมทำแต้มรายนี้
ตามการตัดสินของคณะกรรมการพิจารณาโทษผู้เล่นของ บาสเกตบอล NBA เมื่อวันที่ 30 ตุลาคม ได้สั่งลงโทษ “เทร ยัง” การ์ดตัวเก่งของทีม แอตแลนตา ฮอว์กส ด้วยการปรับเงินจำนวน 15,000 เหรียญสหรัฐฯ หรือเกือบ 500,000 บาท ฐานฝ่าฝืนข้อห้ามของ NBA ว่าด้วยการสัมผัสตัวผู้ตัดสิน ระหว่างการแข่งขันควอเตอร์ที่ 2 เกมที่ แอตแลนตา ฮอว์กส แพ้ วอชิงตัน วิเซิร์ดส์ 111 – 122 คะแนน เมื่อคืนวันพฤหัสที่ 28 ตุลาคม ที่ผ่านมา โดยในเกมดังกล่าว ผู้เล่นวัย 23 ปี ได้เข้าไปประท้วงการทำหน้าที่ของผู้ตัดสินและสัมผัสตัวเพื่อขอคำอธิบายว่าเหตุใดจึงไม่เป่าฟาวล์ให้แก่เขา ซึ่งส่วนหนึ่งเป็นไปตามกฎใหม่ที่ระบุว่า จะไม่มีการเป่าฟาวล์ให้ หากผู้เล่นเกมบุกมีท่าทางเคลื่อนไหวตัวแบบไม่เป็นธรรมชาติ หรือลุ้นทำคะแนน โดยในเกมนั้น ยัง ทำผลงานได้ดีพอตัว ด้วยการทำ 15 แต้ม กับอีก 13 แอสซิสต์ และ 3 รีบาวด์
เทร ยัง เคยได้ชื่อว่าเป็นผู้เล่นที่เรียกฟาวล์เพื่อไปชู้ตฟรีโทรว์ได้เก่งที่สุดเป็นอันดับ 4 ในลีก NBA เมื่อฤดูกาล 2020/2021 แต่ฤดูกาลนี้กลับหล่นมาเป็นอันดับ 32 ซึ่งสาเหตุส่วนหนึ่งก็น่าจะมาจากการเปลี่ยนกฎการทำฟาวล์บางข้อนั่นเอง แต่ถึงแม้จะเจอข้อจำกัดในการสร้างผลงาน แต่การ์ดรายนี้ก็ยังทำแต้มเฉลี่ยนัดละ 24.2 แต้ม และ 10 แอสซิสต์ เลยทีเดียว
ทั้งนี้ เทร ยัง เพิ่งบรรลุข้อตกลงต่อสัญญา 5 ปี มูลค่ากว่า 172 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือราว 5,700 ล้านบาท กับทีม แอตแลนตา ฮอว์กส เมื่อช่วงเดือนสิงหาคม ที่ผ่านมา ตามการยืนยันของ “โอมาร์ วิลก์ส” เอเยนต์ส่วนตัว และสำนักข่าว “อีเอสพีเอ็น” ของสหรัฐอเมริกา แถมในสัญญาฉบับนี้ยังระบุเงื่อนไขปรับค่าเหนื่อยขึ้น 30% ซึ่งจะทำให้เจ้าตัวได้รับค่าเหนื่อยเพิ่มเป็น 207 ล้านเหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 6,800 ล้านบาท กรณีที่มีชื่อติดทีมยอดเยี่ยม บาสเกตบอล NBA 1 ใน 3 ทีม และสามารถปฏิเสธอ็อปชัน หลังครบ 4 ฤดูกาล โดยสัญญาจะมีผลบังคับใช้ในฤดูกาล 2022/2023 และจะสิ้นสุดในฤดูกาล 2026/2027 เลยทีเดียว