ลาร์รีอี ซิกฟรีด อีกหนึ่งตำนานนักบาสยุคก่อตั้งกีฬาบาส
หากจะพูดถึงนักบาสในยุคแรก ๆ ที่ก่อตั้งกีฬาบาสเก็ตบอลก็มีหลายบุคคลที่ค่อนข้างน่าสนใจเป็นอย่างมาก และนักบาสเก็ตบอลทั้งหลายล้วนเป็นนักเล่นชามอเมริกันที่ได้ทำชื่อเสียงเอาไว้นั่นเองค่ะ และอีกหนึ่งนักบาสี่น่าสนใจอย่าง ลาร์รีอี. ซิกฟรีด หรือ Larry Siegfried เป็นนักบาสเกตบอล ผู้เล่นในลีกบาสเกตบอลแห่งชาติของอเมริกัน ซึ่งเป็นบุคคลในยุคตำนานแรก ๆ ของกีฬาบาสเก็ตบอลเลยทีเดียวซึ่งตอนนั้นยุคของบาสเก็ตบอลเรียกได้ว่าเจริญรุ่งเรืองและหาชาประวัตินักบาสในตำนานค่อนข้างยากมาก แต่ ลาร์รีอี ซิกฟรีดนั้นก็เป็นหนึ่งในนักบาสที่น่าจดำและเป็นแรงบัลดาลใจให้นักบาสผู้อื่นตลอดมา รู้แบบนี้แล้ว มาเริ่มความรู้จักเขากันดีกว่า
การแข่งขันในระดับมืออาชีพของเขา นั่นก็ค่อ American Basketball League ในปี 1961-1962 Cleveland Pipers ABL Champs ซึ่งเขาได้รับการคัดเลือกเป็นเป็นหนึ่งในนักเล่นคนสำคัญในลีก NBA ในตอนนั้นได้รับการดราฟเข้าทีมจาก Royals Cincinnati จากการคัดเลือกรอบแรกในปี 1961 เพื่อเป็นการที่จะทำการจับคู่ในการแข่งขันกับ Oscar Robertson ในรอบ backcourt Siegfried ซึ่งในปีนั้นเขาได้เข้าร่วมคลีฟแลนด์ไพเพอร์สของอเมริกันบาสเกตบอลในตอนนั้น ซึ่งเขาได้รับเลือกเข้าเล่น
ต่อมาเขาก็ได้รางวัลของ แชมป์ระดับแรกของทีม Boston Celtics ในปี 1963–1970 ต่อมา ABLได้รับสิทธิ์กับ St. Louis Hawks เขาได้ถูกออกอย่างน่าตกใจ และในต่อมานั้นเขาได้ทำการเป็นโค้ชในโรงเรียนมัธยม แต่อดีตเพื่อนร่วมมหาวิทยาลัย Havlicek ชื่อว่า Red Auerbach ให้เขาลองกลับมาเล่นให้กับบอสตันเซลติกส์ ซึ่งเขาก็ได้กลับมาและได้มีความมั่นใจในตัวเองเพิ่มมากขึ้นมากกว่าเดิมจากที่เขาถูกปลดออก ต่อมาในที่สุดนั้นเขาก็ได้ประสบความสำเร็จในการป้องกันการยิงลูกโทษได้ จนทีมกล่าวว่าเขานั้นเป็นกุญแจที่สำคัญของทีมเพื่อนำพาชัยชนะที่น่ายินดี รวมไปถึงอีกทั้งยังสามารถพาทีมคว้าแชมป์ NBA ให้กับบอสตันเซลติกส์ ไปได้ในปี 1968อีกด้วยนั่นเอง เป็นข่าวดีชนิดที่ดีที่สุดค่ะ
เขาได้ลงการแข่งขันในฤดูกาลแรกถึง 7 ครั้ง กับทีมบอสตันเซลติกส์ และได้รับคะแนนถึง 5 คะแนนในช่วงเวลานั้น เขาทำอัตราการโยนที่ดีที่สุดเมื่อปีในฤดูกาล 1965 – 1966 และ 1968 – 1969 ต่อมาเมื่อเขาเป็นนักบาสมืออาชีพ N B A เขาได้เขาร่วมการแข่งขันให้กับทีม Rockets และ Hawks ซึ่งนั่นเป็นการแข่งขันสุดท้ายของเขาในอาชีพนักบาสเก็ตบอลกก่อนที่เขาจะเป็นที่รู้จักและกล่าวขานให้คนรุ่นหลังตามมานั่นเอง